นอนไม่หลับเพราะ "โรคนอนไม่หลับ" หรือ "โรคซึมเศร้า"

สังเกตอาการ นอนไม่หลับเพราะ "โรคนอนไม่หลับ" หรือเพราะ "โรคซึมเศร้า"? ต่างกันอย่างไร
แม้อาการ “นอนไม่หลับ” จะดูเหมือนเป็นเรื่องทั่วไปที่ใคร ๆ ก็เคยเจอ แต่ความจริงแล้วสาเหตุเบื้องหลังนั้นอาจแตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉพาะในสองกลุ่มใหญ่ที่มักถูกเข้าใจผิดกันบ่อยคือ โรคนอนไม่หลับ (Primary Insomnia) และ โรคซึมเศร้า (Depression) ซึ่งทั้งสองภาวะนี้ล้วนส่งผลต่อคุณภาพการนอนเหมือนกัน แต่มี “กลไกและวิธีรักษา” ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
การรู้เท่าทันความแตกต่างเหล่านี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการ รักษาอาการนอนไม่หลับ ให้ถูกวิธี เพราะถ้ารักษาผิดทาง ไม่เพียงแต่อาการจะไม่ดีขึ้น แต่ยังอาจทำให้ปัญหาทางจิตใจหรือสุขภาพแย่ลงเรื่อย ๆ อีกด้วย
โรคนอนไม่หลับคืออะไร?
โรคนอนไม่หลับ (Primary Insomnia) คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนอนหลับได้อย่างปกติแม้ไม่มีโรคทางจิตเวชหรือโรคประจำตัวอื่น ๆ เป็นสาเหตุ เป็น “โรคทางการนอนโดยตรง” ที่เกิดขึ้นจากระบบควบคุมการนอนของร่างกายผิดปกติ ซึ่งมักส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ หากไม่ได้รับการดูแลหรือ รักษาอาการนอนไม่หลับ อย่างเหมาะสม อาการอาจเรื้อรังและยากต่อการฟื้นตัวในระยะยาว
อาการ นอนไม่หลับ (Insomnia) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แต่สาเหตุเบื้องหลังอาจแตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉพาะใน 2 กรณีนี้:
อาการนอนไม่หลับเพราะ “โรคนอนไม่หลับ” (Primary Insomnia)
- เป็นโรคทางการนอนโดยตรง
- ผู้ป่วยมักมีปัญหาการหลับยาวนาน ต่อเนื่องเรื้อรัง โดย ไม่มีสาเหตุทางจิตเวชหรือโรคประจำตัวอื่น ๆ ชัดเจน
- ผู้ป่วยมัก วิตกกังวลเกี่ยวกับการนอนโดยตรง เช่น “คืนนี้จะนอนไม่หลับอีกหรือเปล่า” “ถ้าคืนนี้นอนไม่หลับพรุ่งนี้คงรู้สึกแย่มากๆ” กลายเป็นวงจรความเครียดที่ยิ่งทำให้นอนยากขึ้น
- พฤติกรรมที่เกี่ยวกับการนอน เช่น ใช้โทรศัพท์ก่อนนอน หรือนอนกลางวันมากเกินไป มักเป็นตัวกระตุ้นให้โรคนอนไม่หลับเรื้อรัง
อาการนอนไม่หลับเพราะ “โรคซึมเศร้า” (Depression)
- นอนไม่หลับเป็นหนึ่งใน อาการของโรคซึมเศร้า
- ในคนที่นอนไม่หลับเพราะโรคซึมเศร้ามักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น รู้สึกเศร้า เบื่อ หมดแรง ไม่มีความสุขในสิ่งที่เคยชอบ รู้สึกไร้ค่า หรือคิดฆ่าตัวตาย
- ปัญหาการนอนอาจมาในรูปแบบ: หลับยาก ตื่นกลางดึกบ่อย หรือตื่นเช้ามากโดยไม่ตั้งใจและกลับไปหลับไม่ได้
- การนอนไม่หลับในกรณีนี้ มักเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง เช่น serotonin
แนวทางการรักษาอาการนอนไม่หลับที่ต่างกัน
การรักษา “โรคนอนไม่หลับ” โดยตรง
เน้นการ ปรับพฤติกรรมการนอน (CBT-I: Cognitive Behavioral Therapy for Insomnia) เช่น:
- เข้านอน ตื่นนอนให้ตรงเวลา
- หลีกเลี่ยงแสงหน้าจอหรือกาแฟก่อนนอน
- ฝึกผ่อนคลาย เช่น สมาธิ หายใจลึก
- ปรับความคิดที่ทำให้กลัวการนอนไม่หลับมากเกินไป
- จำกัดเวลานอนให้พอดี 6-8 ชั่วโมง
- ไม่นอนเผื่อทั้งๆที่ยังไม่ง่วง เพราะจะยิ่งทำให้กังวลว่าจะนอนไม่หลับ
ใช้ยาในบางกรณี เช่น ยานอนหลับแบบไม่เสพติด
การรักษา “โรคซึมเศร้า” ที่มีอาการนอนไม่หลับ
ต้อง รักษาอาการซึมเศร้าเป็นหลัก เช่น:
- ใช้ ยาต้านเศร้า (Antidepressants) ที่ช่วยให้นอนดีขึ้นด้วย เช่น Mirtazapine, Agomelatine
- จิตบำบัด วิเคราะห์หาปมทางจิตใจที่อาจเป็นสาเหตุของอาการซึมเศร้า
- การดูแลอารมณ์ และสร้างกิจวัตรที่มีโครงสร้าง (เช่น ตื่นเช้าออกกำลังกาย)
การให้นอนหลับดีขึ้นเป็น “ผลพลอยได้” จากการรักษาโรคซึมเศร้า
พฤติกรรมที่ควรเลี่ยง หากไม่อยากนอนไม่หลับเรื้อรัง
หากต้องการรักษาอาการนอนไม่หลับ ให้เห็นผล การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างคือสิ่งสำคัญ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นตัวกระตุ้นให้อาการแย่ลงหรือกลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย
- ใช้หน้าจอก่อนนอน แสงสีฟ้าจากโทรศัพท์หรือทีวีรบกวนการหลั่งเมลาโทนิน ทำให้สมองไม่พร้อมหลับ
- ดื่มคาเฟอีนช่วงบ่ายหรือก่อนนอน คาเฟอีนกระตุ้นระบบประสาทและทำให้หลับยากขึ้น
- นอนทั้งที่ยังไม่ง่วง การพยายามหลับทั้งที่ไม่ง่วงจะยิ่งเพิ่มความเครียดและยากต่อการนอน
- งีบกลางวันนานเกินไป การนอนกลางวันนานกว่า 20-30 นาทีอาจทำให้กลางคืนไม่ง่วงและนอนไม่หลับเรื้อรัง
สรุป: รู้ให้ทันสาเหตุ เพื่อรักษาให้ตรงจุด
นอนไม่หลับอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่ลึกซึ้งกว่าที่คิด หากคุณนอนไม่หลับเรื้อรัง รู้สึกเศร้า เหนื่อย เบื่อหน่าย หรือไม่มีแรงใจ แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์ เพราะการตรวจวินิจฉัยแยกโรคอย่างถูกต้องเป็นก้าวแรกสู่การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ
ปีติ คลินิก พร้อมดูแลสุขภาพใจของคุณ ด้วยทีมจิตแพทย์ และนักจิตวิทยาอย่างใส่ใจ
ติดต่อ Piti Clinic ปีติ คลินิก
www.piti.co.th
นัดหมายทาง LINE ID: @piticlinic
โทรติดต่อเจ้าหน้าที่: 090 230 6000
เวลาติดต่อ: จันทร์-ศุกร์ 12.00-19.00 , เสาร์-อาทิตย์ 10.00-19.00
ที่อยู่: 170/6 Pradiphat Rd, Phaya Thai, Bangkok 10400
ติดเซเว่น ซอยประดิพัทธ์ 10 (ใกล้ BTS สะพานควาย) กรุงเทพ
แผนที่: https://maps.app.goo.gl/fTHxf6pRK9DZZ1aM7



